สถานที่สำคัญในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
แนะนำสถานที่สำคัญ!!
ในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มมส.
.........................................................................................................................
เรามาดูกันค่ะ ว่าสถานที่ใดบ้างที่มีความสำคัญในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีเรื่องเล่าและ ที่มาที่น่าสนใจอย่างไร ที่ทำให้นิสิตและบุคลกรในมหาวิทยาลัยต่างให้ความสำคัญ ซึ่งมึสถานที่ดังนี้
1. พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ :
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2542
โดยมีความมุ่งหมายเพื่อสื่อสารถึงอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ที่มีจุดเริ่มต้นและพัฒนาการอย่างมีความหมายและความสำคัญควบคู่มากับพัฒนาการของสังคม
ตั้งแต่ยุคที่เป็นวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม (พ.ศ.2511) จนถึงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาสารคาม
(พ.ศ.2517) และเป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (พ.ศ.2537)
รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาองค์ความรู้ด้านพิพิธภัณฑ์เพื่อส่งเสริมให้สังคมได้รับผลประโยชน์จากกิจการพิพิธภัณฑ์
ทั้งในด้านการปลูกจิตสำนึกแห่งคุณค่าและความสำคัญของท้องถิ่น
การจัดการพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการของสังคม
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มีปรัชญาคือ สร้างสำนึกในคุณค่า เพื่อสำนึกแห่งการพัฒนาในด้านวิสัยทัศน์
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อปลูกจิตสำนึกในคุณค่าแห่งตัวตน
และสร้างสรรค์องค์ความรู้ด้านพิพิธภัณฑ์เพื่อการพัฒนาสังคม
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามอยู่ริมถนนด้านหลังมหาวิทยาลัย
ข้างในเป็นเรือนไทยแบบอีสานรูปทรงต่างๆแตกต่างกันไป ภายในพื้นที่โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น
8 ส่วน ดังนี้
1. เรือนอีสานประยุกต์หลังใหญ่
ประกอบด้วย สำนักงาน ห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุมย่อย ห้องรับรอง คลังพิพิธภัณฑ์
หอจดหมายเหตุมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และนิทรรศการพัฒนาการมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2. เรือนอีสานประยุกต์หลังเล็ก
ประกอบด้วยนิทรรศการพัฒนาการมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
และพื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการหมุนเวียน
3. เรือนโข่ง
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมืองมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. เรือเกย
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งโครงการอนุรักษ์ใบลานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. เล้าข้าว ตูบต่อเล้า
จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในวิถีชีวิตชาวลุ่มแม่น้ำชี
6. เรือนผู้ไท
จัดแสดงนิทรรศการภูมิปัชาวลุ่มแม่น้ำชี
7. ลานกิจกรรม
เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้ง
8. สถานีศึกษาสัตว์
นอกจากนี้ โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามยังทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน การวิจัย และบริการวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนและจัดกิจกรรมสำหรับคณาจารย์ นิสิต และบุคคลทั่วไป
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2.สวนสัตว์
ผศ.ดร.ทวีศิลป์ สืบวัฒนะ
ประธานโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย
มหาสารคามได้มีดำริที่จะจัดตั้งสวนสัตว์ขนาดเล็กบนพื้นที่โดยรอบบริเวณโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือกับสวนสัตว์นครราชสีมาองค์กร
สวนสัตว์ในพระบรามราชูปถัมภ์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของสถานีศึกษาสัตว์จะมีสัตว์อยู่หลายชนิด อาทิเช่น กวางลูซ่า, ละมั่ง,
เนื้อทราย, กวางดาว, นกยูง,
นกแก้วมาคอร์ และยังมีสัตว์อื่นๆอีกในโครงการ
เพื่อใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ สนับสนุนการศึกษาวิจัย
และการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไปรวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชน
สามารถสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจจากการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์บางประเภทด้วย
ความสำคัญของมหาวิทยาลัยนอกจากจะเป็นแหล่งส่งเสริมความรู้ทางวิชาการในระบบแก่ผู้มีโอกาสในท้องถิ่นแล้วควรจัดให้เป็นแหล่งศึกษานอกระบบ และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย ซึ่งในบรรดาสื่อกลางต่างๆ นั้น นอกจากพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบมาตรฐานแล้ว (ตามที่คนส่วนใหญ่เ ข้าใจ) ยังสามารถนำเสนอในรูปแบบพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เช่น สวนสาธารณะ การจัดสัมมนานอกสถานที่ หรือสวนสัตว์ได้ด้วยทั้งนี้นอกจากจะสามารถให้ความรู้ทางวิชาการได้แล้วยังสามารถสร้างสำนึกอารมณ์ความรู้สึก
ต่อธรรมชาติแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย
ต่อธรรมชาติแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย
ดังนั้นด้วยความร่วมมือจากนายสัตวแพทย์วรพล เองวานิช (อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีผลิตสัตว์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) และอาจารย์อลงกต แทนกองทอง (ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น)ได้เป็นธุระประสานงานกับทางสวนสัตว์นครราชสีมา โดยมีนาวาอากาศโทกระวี กรีธาพล เป็นผู้อำนวยการ เพื่อดำเนินการจัดตั้งสวนสัตว์มหาวิทยาลัยขึ้น และได้ทำการเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2548
3. หอพระกันทรวิชัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองและคู่มหาวิทยาลัยมหาสารคามมาเป็นเวลากว่า30 ปีแล้ว นั่นก็ คือ"พระพุทธกันทรวิชัย อภิสมัยธรรมนายก" หรือที่นิยมเรียกขานกันว่า“พระกันทรวิชัย” นั่นเอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "พระพุทธกันทรวิชัย อภิสมัยธรรมนายก" พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร ไว้ ณ ผ้าทิพย์ด้านหน้าฐานพระพุทธรูป สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษกและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
หอพระกันทรวิชัยแห่งนี้นี้ เป็นที่ไหว้พระอีกสถานที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งจะตั้งอยู่ข้างกับหอพยัคภูมิพิสัย หอพระแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอีกสถานที่หนึ่งเพราะนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนมากจะพากันมาไหว้พระที่นี้ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต และทำให้เราสบายใจเมื่อได้กราบไหว้ มีผู้คนส่วนมากมาไหว้ขอพรเพราะเชื่อว่าจะทำให้สบายใจขึ้น บางคนก็มาบนบาลสารกล่าว เพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และแคล้วคาดปลอดภัยจากอันตราย บางคนก็มาบนขอให้สอบผ่านหรือได้เกรดดีๆ และผู้คนส่วนมากก็ประสบความสำเร็จตามที่ขอ
แต่สำหรับฉันแล้วฉันรู้สึกสบายกายสบายใจเมื่อได้กราบไหว้ขอพร
ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองอยู่ตลอดเวลาทั้งในเรื่องการเดินทาง หรือเวลาก่อนสอบฉันก็จะไปไหว้ขอพรก่อนสอบทุกครั้ง
และเมื่อวันพระฉันก็จะเอาดอกไม้ไปไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
และให้ท่านคอยปกปักรักษาให้เราอยู่รอดปลอดภัย
และใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างมีความสุขเหมือนอยู่ใกล้ๆบ้านอีกด้วยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น